ดาวโจนส์ปิดบวกต่อเนื่อง 11 วันติด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 ความเชื่อมั่นผลประกอบการบริษัทหนุน ขณะน้ำมันลบ

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นกรอบแคบ  โดยดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 11.44 จุด  ปิดที่ 20,821.76 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 3.53 จุด  ปิดที่ 2,367.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.80 จุด  ปิดที่ 5,845.31 จุด ซึ่งดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ติดต่อกัน ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 จากความเชื่อมั่นต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆในไตรมาสถัดๆไป แม้ปราศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้สกอตต์ คลีมอนต์ หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของบราวน์ บราเธอร์ส แฮร์ริมัน ในนิวยอร์ก เตือนว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจเหือดหายไป หากรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่มีความคืบหน้าในมาตรการลดภาษี ผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆและใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน
    
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 55.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันปิดลบร้อยละ 1 หลังรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ส อิงค์ ผู้ให้บริการทางพลังงาน ระบุว่ามีการเดินเครื่องแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 6 สัปดาห์ติดต่อกัน ก่อความกังวลทางอุปทาน ซึ่งบดบังความพยายามลดกำลังผลิตของโอเปกและชาติผู้ผลิตรายใหญ่อื่นๆ ด้านราคาทองคำดีดตัว 2 วันติด แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่ง จากแรงหนุนของดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์