Mont Saint-Michel มงต์แซงต์-มิเชล วิหารกลางน้ำที่ฝรั่งเศส
Mont Saint-Michel (มงต์ แซงต์-มิเชล หรือ มงต์ ชานต์-มิเชล) คือวิหารบนเกาะเล็กๆ ที่เกิดจากน้ำขึ้นน้ำลง (tidal island) ในแถบ Normandy ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ปากแม่น้ำ Couesnon ใกล้กับเมือง Avranches บนพื้นที่ 247 เอเคอร์
เกาะนี้มีประวัติเริ่มต้นราวคริสต์ศตวรรษที่ 6 และ 7 โดยใช้เป็นฐานที่มั่นของชาว Gallo-Roman ก่อนที่จะถูกตีแตกพ่ายไปและเข้ายึดครองโดยชาว Franks และเรียกเกาะแห่งนี้ว่า Mont Tombe โดยตามตำนานกล่าวไว้ว่าเทวทูต Michael (เซนต์ไมเคิล) ได้มาเข้าฝันนักบุญ Aubert บิชอปแห่ง เมือง Avranches และในฝันองค์ Michel ได้รับสั่งให้บิชอปสร้างวิหารขึ้นบนเกาะหิน แต่นักบุญ Aubert ไม่ได้ปฏิบัติตามนั้น เนื่องจากนึกว่าที่เข้าฝันเขานั้นคือปีศาจที่พยายามชักนำ จนถึงการเข้าฝันครั้งที่สาม องค์ Michel ได้ใช้นิ้วชี้เผาบริเวณหน้าผากของ Aubert ในฝันและเมื่อตื่นขึ้นมา ก็มีร่องรอยอยู่ที่หน้าผากจริง Aubert จึงได้รับสั่งให้ดำเนินการสร้างวิหารตามที่ได้รับสั่งมาในฝัน
การสร้างวิหารนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องขนหินมาจากพื้นที่ใกล้เคียง โดยส่วนใหญ่นำมาจากเกาะ Chausey นอกชายฝั่งไปสิบกว่ากิโลเมตรและจากเขต Bretagne (Britany ในภาษาอังกฤษ) หลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จ Mont Saint-Michel ได้กลายเป็นที่แสวงบุญของนักบวชชาวคริสต์ และศาสนิกชนที่เคร่งครัดในศาสนา และมีการเดินทางจากฝั่งไปที่เกาะเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่ขึ้น-ลงอย่างรวดเร็วของแถบนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่างการเดินข้ามไปที่เกาะอยู่หลายครั้ง ต่อมาเกิดตะกอนทับถมปากแม่น้ำ Couesnan ให้ตื้นเขินขึ้นมากและสามารถเดินได้รอบเกาะ จนมีการสร้างทางเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ (Causeway) ขึ้นในปี ค.ศ. 1879
แต่ในปี 2006 ทางการได้ลงทุนกว่าหกพันล้านบาท สร้างเขื่อนเพื่อควบคุมกระแสน้ำทำให้สลายการทับถมจน Mont Saint-Michel กลับมาเป็นเกาะอีกครั้ง พร้อมรื้อทางเชื่อมและแทนที่ด้วยสะพานโปร่งที่ให้น้ำไหลลอดผ่านได้ โดยเพิ่งเปิดใช้งานในปี 2014 นี่เอง ส่วนลานจอดรถตรงทางเชื่อมก็ถูกรื้อและย้ายขึ้นไปบนฝั่ง โดยมีรถชัตเติลบัสรับส่งระหว่างที่จอดรถข้ามสะพานไปยังเกาะแทน
ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 11-16 มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนเพิ่มเติมภายในเกาะ และมีประชาชนย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น มีการตั้งหมู่บ้านขึ้นมาที่เชิงเขา และเนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการป้องกันตัวเอง ทำให้เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นทั้งที่มั่นทางทหารด้วย นอกเหนือจากศาสนสถาน และยังสามารถต้านทานการบุกของอังกฤษ ในช่วงสงครามร้อยปี (ค.ศ. 1337-1453) ขณะเดียวกันคณะสงฆ์ของวิหารแห่งนี้ก็เพิ่มความมั่งคั่งและอิทธิพลขึ้น แต่ก็กลับตกต่ำลงเมือถึงยุคการปฏิรูปศาสนา (reformation)
ต่อมาในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส วิหารแห่งนี้ก็ร้างผู้คนจนถูกนำมาใช้เป็นคุกคุมขังนักโทษสำคัญแทน ในปี ค.ศ. 1836 กลุ่มปัญญาชนของฝรั่งเศส รวมทั้ง Victor Hugo (ผู้แต่งเรื่อง Les Miserables และ The Hunchback of Notre-Dame ซึ่งเป็นทั้งนักประพันธ์และผู้มีอิทธิพลทางความคิดคนสำคัญในยุคนั้น) ได้พากันเรียกร้องให้อนุรักษ์มรดกสำคัญของชาตินำไปสู่การเลิกใช้คุกในปี ค.ศ. 1863 และประกาศเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ. 1874
ในปี ค.ศ. 1966 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 1,000 ปี ของการก่อตั้งวิหาร คณะสงฆ์และเหล่าผู้แสวงบุญเริ่มกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้งจนถึงปี 1979 องค์การ UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้ Mont Saint-Michel เป็นมรดกโลกทั้งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และความสวยงามตามธรรมชาติ
ปัจจุบันนี้ Mont Saint Michel เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเข้าชมมากกว่าปีละ 3 ล้านคน ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการเยี่ยมชมมากที่่สุดเป็นอันดับ 3 ในฝรั่งเศสรองจาก หอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
สกุลเงิน | ซื้อ | ขาย |
---|---|---|
USD
United States
|
34.28 | 34.44 |
GBP
United Kingdom
|
42.89 | 43.25 |
EUR
European Union
|
35.64 | 35.90 |
JPY
Japan
|
0.222 | 0.224 |
MYR
Malaysia
|
7.65 | 7.71 |
SGD
Singapore
|
25.20 | 25.65 |
CNY
China
|
4.70 | 4.77 |