ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.31 กลับมาอ่อนค่าหลังมีแรงซื้อดอลล์ จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ มองกรอบวันนี้ 33.25-33.40

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 33.26 บาท/ดอลลาร์
"ล่าสุดเงินบาทอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ 33.33 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาด ซึ่งน่าจะเป็น

สัญญาณทางเทคนิคเพราะยังไม่มีปัจจัยใหม่...ปัจจัยที่ต้องติดตามคือคืนนี้จะมีเจ้าหน้าที่เฟดออกมาพูด และรายงานตัวเลขการจ้างงาน

ของสหรัฐฯ (ADP)" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.25-33.40 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.54 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 110.34 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1798 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1815 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2830 บาท/

ดอลลาร์
- นายแบงก์ ระบุต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นกว่าประเทศคู่ค้าและคู่แข่งเป็นเพียงระยะสั้นหรือไม่

โดยยอมรับว่าการเคลื่อนไหว ค่าเงินบาทเป็นเรื่องควบคุมยาก ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกไม่ควรประมาท จำเป็นต้องป้องกัน

ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อล็อกต้นทุนและกำไรในช่วงที่ค่าเงินผันผวน อย่าคิดว่าการทำเฮดจิ้งเป็นค่าใช้จ่ายและต้นทุน

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) จะค่อยๆ ฟื้นตัว

ขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1.0%
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ผู้สูงอายุโดยอนุมัติในหลักการส่วนการจัดเก็บ

เงินเข้ากองทุนผู้สูงอายุเพิ่ม จากภาษีสุรา ยาสูบ และเบียร์ ในอัตรา 2% เข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อไปเพิ่มให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้

น้อย แต่กำหนดเพดานการจัดสรรเงินเข้ากองทุนไว้ที่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะมีผลบังคับใช้หลังจากผ่านสภานิติบัญญัติแห่ง

ชาติ(สนช.) และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว คาดว่าจะเป็นช่วงต้นปี 2561
- บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)

สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และสูงกว่าระดับ 52.0

ในเดือนมิ.ย.
- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวสู่ระดับ 56.3

ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 56.5
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) จาก

แรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการกำหนดนโยบายการเงินของ

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากนี้ โดยยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.1810 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1825 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง

เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.23 เยน จากระดับ 110.37 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ประกอบกับความ

ไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนถึงภาวะฟองสบู่ในตลาดพันธบัตร โดยระบุ

ว่า เศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ช่วงของการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ตลาดพันธบัตรร้อนแรงเกินไป หากภาวะการณ์ดังกล่าวยังคง

ดำเนินต่อไป
- นักลงทุนจับตาข้อมูลด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่  ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.

จาก ADP, ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย

สัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ค. จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิต

เดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. และดุลการค้าเดือนมิ.ย.

อัตราแลกเปลี่ยนเงิน

สกุลเงินซื้อขาย
USD
United States
34.43 34.60
GBP
United Kingdom
43.24 43.50
EUR
European Union
35.99 36.25
JPY
Japan
0.223 0.2245
MYR
Malaysia
7.70 7.75
SGD
Singapore
25.25 25.70
CNY
China
4.72 4.78

ราคาทองคำ

ราคาทองคำ

ทองคำแท่ง
รับซื้อ (บาท)
43,700.00
ขายออก (บาท)
43,800.00
ทองคำรูปพรรณ
รับซื้อ (บาท)
42,917.96
ขายออก (บาท)
44,300.00