ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.25 มองกรอบวันนี้ 33.20-33.30 ตลาดรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-กนง.สัปดาห์นี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.25 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่



ระดับ 33.23 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงที่บ้านเราหยุด 3 วัน มีปัจจัยคือเงินเฟ้อสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ดอลลาร์โดนเทขาย ขณะที่นักลงทุนคลาย

ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาล

สหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 33.20-33.30 บาท/ดอลลาร์
"คืนนี้จะมีตัวเลขยอดค้าปลีก และ การผลิตของสหรัฐฯ ส่วนพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กน

ง.)" นักบริหารเงิน กล่าว
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.17 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (11 ส.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 109.04 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1785 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (11 ส.ค.) ที่อยู่ที่ระดับ 1.1755 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2530 บาท/

ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (14-18 ส.ค.) ที่ 33.10-33.30 บาทต่อ

ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 ส.ค.

ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิต

ของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อ

สร้าง และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.ค. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่บันทึกการประชุมเฟด และถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทาง

จังหวะการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ รวมถึงประเด็นความคืบหน้าของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%

ต่อเนื่องในการประชุม กนง. รอบที่ห้าของปี 2560 ในวันที่ 16 ส.ค. 2560 นี้ และน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องในช่วงที่เหลือ

ของปีนี้ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของเฟดที่อาจจะเริ่มปรับลด

ขนาดงบดุลในช่วงปลายปี
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า นักลงทุนในตลาดการเงินได้ประเมินว่า ในการ

ประชุมคณะกรรมการดอกเบี้ยนโยบาย (กนง.) วันที่ 16 ส.ค.นี้ อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง หลังเงินเฟ้อไทยติดลบในตลอด 2-

3 เดือนที่ผ่านมา โดยเดือน พ.ค. ติดลบ 0.04% เดือน มิ.ย. ลบ 0.05% ขณะที่ล่าสุดเดือน ก.ค. ยังเพิ่มขึ้นระดับต่ำ 0.17%

ประกอบกับดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี ที่ลดลงอย่างรวดเร็วจากเฉลี่ย 1.5% ในเดือน พ.ค. เหลือ 1.46% ในเดือน ก.ค. รวม

ถึงมีเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดดอกเบี้ยนโยบาย

ลงเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อให้สูงขึ้น
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 23 สิงหาคม คาดว่าจะมีการแถลงดัชนีความเชื่อมั่น

ภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม 2560 ประเด็นสำคัญคือ ประกาศลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ภายในประเทศปี 2560 ใหม่ จากเป้า

หมายคาดการณ์ไว้ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นส่งออก 1.2 ล้านคัน และภายในประเทศ 8 แสนคัน เพราะช่วงครึ่งปี 2560 ส่งออกลดลง

ถึง 13.02% คาดว่าทั้งปีจะส่งออกได้ 1.1 ล้านคัน ขณะที่ในประเทศคงเดิมแต่กังวลผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและอาจมีพายุเข้ามา

อีก จนอาจกระทบยอดขายรถยนต์ในประเทศ
- นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ

และเกาหลีเหนือ หลังจากนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายจิม แมททิส รมว.กลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า

รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์

คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากทรงตัวในเดือนมิ.ย.
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) สืบ

เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากเจ้าหน้าที่

ระดับสูงของสหรัฐระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1778 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1828 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง

เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.22 เยน จากระดับ 108.97 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงิน

ดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มสัญญาณคลี่คลายลง ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญา

ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต (Empire State

Manufacturing Index) เดือนส.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออกเดือนก.ค., สต็อก

สินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนส.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไทเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ดำเนินการตรวจ

สอบการปฏิบัติทางการค้าของจีน ซึ่งรวมถึงทรัพย์สินทางปัญญา แม้หลายฝ่ายได้แสดงความกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์

อัตราแลกเปลี่ยนเงิน

สกุลเงินซื้อขาย
USD
United States
34.43 34.60
GBP
United Kingdom
43.24 43.50
EUR
European Union
35.99 36.25
JPY
Japan
0.223 0.2245
MYR
Malaysia
7.70 7.75
SGD
Singapore
25.25 25.70
CNY
China
4.72 4.78

ราคาทองคำ

ราคาทองคำ

ทองคำแท่ง
รับซื้อ (บาท)
43,700.00
ขายออก (บาท)
43,800.00
ทองคำรูปพรรณ
รับซื้อ (บาท)
42,917.96
ขายออก (บาท)
44,300.00