ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.26 ทรงตัวจากวานนี้ ยังไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.20-33.30

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.26 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้



เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.24/26 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา

"เช้านี้บาททรงตัว โดยช่วงบ่ายวานนี้อ่อนค่าขี้นมาหลังมีข่าว ธปท.ให้สถาบันการเงินรายงานการลงทุนของบัญชีของผู้ที่

อยู่ในต่างประเทศหลังพบ flow ไหลเข้ามาผิดปกติ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.30 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ 109.23 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.02/07 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1810 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1741/1744 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2180 บาท/

ดอลลาร์
- ธนาคารไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าว่าในสิ้นปี 2562 ธนาคารฯจะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของผู้นำดิจิทัลแบงกิ้ง ที่ลูกค้ามีความ

พึงพอใจสูงสุด มีจำนวนลูกค้าสมัครใช้บริการ 8 ล้านราย จากปัจจุบันมีอยู่ 4 ล้านราย
- ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารกรุงเทพสาขาญี่ปุ่น ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในญี่ปุ่นประมาณ 100-200 ล้าน

ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,320-6,640 ล้านบาท (ณ อัตราแลกเปลี่ยน 33.20) คิดเป็นการเติบโต 10-15% เมื่อเทียบช่วง

เดียวกันของปีก่อน
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยกรณีปัญหาตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) เกิดปัญหาผิดนัดชำระมา

ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ทำให้สมาคมตลาดตราสารหนี้ได้ประชุมหารือกันเพื่อเตรียมปรับปรุงการซื้อขายบี/อีให้รัดกุมขึ้น

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลท. ได้ทบทวนว่าการออกตั๋วบี/อีเช่นกันว่ายังมีช่องโหว่หรือจุดที่

ต้องแก้ไขหรือไม่ นอกจากนี้ ตลท.ได้วางแนวทางการใช้เครื่องมือหรือมาตรการที่จะทำให้ผู้ลงทุนรับรู้ความเสี่ยงของบริษัทจดทะเบียน

มากขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปของมาตรการภายในสิ้นปีนี้
- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษมีความเชื่อมั่นว่าการเจรจาเงื่อนไขในการแยก

ตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) กำลังมีความคืบหน้าในการเข้าสู่ระยะที่ 2 เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของการเป็นหุ้นส่วนกันภาย

ในเดือนต.ค.
- ผลการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก พบว่า แรงงานสหรัฐแทบไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการปรับ

ขึ้นค่าแรง ขณะที่คาดว่าจะมีแนวโน้มลดน้อยลงที่จะได้รับการเสนอการจ้างงานใหม่
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ก่อน

หน้าการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-

26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1816 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1758 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง

เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 108.75 เยน จากระดับ 109.30 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบเกือบ 11 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุน

เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง ภายหลังจากสหรัฐและเกาหลีใต้

ประกาศร่วมซ้อมรบเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับเกาหลีเหนือ
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเตรียมประกาศยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับประเทศอัฟกานิสถานในช่วงเช้าวันนี้ตาม

เวลาไทย โดยคาดว่าปธน.ทรัมป์จะประกาศเพิ่มจำนวนทหารที่จะเข้าไปประจำการในอัฟกานิสถานอีกหลายพันนาย และเตรียมกดดัน

ประเทศปากีสถานให้เดินหน้าต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย
- นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ เพื่อดู

ว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือ

ไม่
การประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้นั้น จะมีการหารือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งใน

สหรัฐและต่างประเทศ โดยจะมีผู้ว่าการธนาคาร รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศ

ต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรวมถึงนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่วนนางเยลเลนมี

กำหนดจะขึ้นกล่าวในหัวข้อเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินในวันศุกร์นี้
- ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค

การผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้าน

ใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.