ดาวโจนส์ร่วง234.25จุดวิตกคาบสมุทรเกาหลี

ดาวโจนส์ปิดร่วง 234.25 จุด วิตกคาบสมุทรเกาหลี  ดันราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ขณะ น้ำมันดิบปิดบวก

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ก.ย.) ดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งมีรายงานข่าวของสื่อเกาหลีใต้ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือเริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) โดยเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความล่าช้าในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

ดาวโจนส์ปิดที่ 21,753.31 จุด ร่วงลง 234.25 จุด หรือ -1.07%  Nasdaq ปิดที่ 6,375.57 จุด ลดลง 59.76 จุด หรือ -0.93%  S&P500 ปิดที่ 2,457.85 จุด ลดลง 18.70 จุด หรือ -0.76% 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 3% เมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า โรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในแถบอีสต์โคสต์ได้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "ฮาร์วีย์" เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 48.66 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย จากความกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ หลังจากที่ได้ทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 14.10 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ระดับ 1,344.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 2016