พระราชวังเครมลิน

พระราชวังเครมลิน (รัสเซีย: Большой Кремлёвский дворец) ก่อสร้างระหว่าง ค.ศ. 1837 ถึง 1849 ในมอสโก ประเทศรัสเซีย บนที่ดินกรรมสิทธิ์ของแกรนด์ปรินซ์ ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 บนเนินโบโรวิตสกี ออกแบบโดยทีมสถาปนิกภายใต้การบริหารจัดการของคอนสแตนติน ธอน พระราชวังเครมลินมีเจตนาที่จะตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของระบอบอัตตาธิปไตยรัสเซีย คอนสแตนติน ธอนยังเป็นสถาปนิกของเครมลินอาร์มรี และมหาวิหารพระคริสต์ผู้ไถ่ พระราชวังเครมลินเดิมเคยเป็นพระตำนักของซาร์ในมอสโก การก่อสร้างพระราชวังรวมไปถึงขั้นตอนการระเบิดอดีตพระราชวังสถาปัตยกรรมบาโรกในบริเวณดังกล่าว ซึ่งออกแบบโดยรัสเตรลลี และคริสตจักรนักบุญจอห์นแบ็พทิสต์ ซึ่งก่อสร้างขึ้นตามโครงการของอโลอีซิโอเดอะนิวแทนที่โบสถ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในมอสโก พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย แต่ได้ถูกปฏิวัต ิเป็นคอมมิวนิสต์ และได้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลเครมลิน เป็นชื่อ ของนักการเมือง พอระบบสังคมนิยม ล่มสลายเป็นประชาธิปไตย ก็ได้เปิดให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน พระราชวังเครมลิน คลังหรือป้อมแห่งมอสโก เป็นพระราชวังที่มีความสำคัญมาตั้งแต่โบราณ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ จน UNESCO ได้จัดให้ พระราชวัง เคลมริน เป็นมรดกของโลก มาเที่ยวรัสเซีย ไม่ได้ไปเยี่ยมชมพระราชวังเคลมริน ถือว่ามาไม่ถึงรัสเซีย ปัจจุบันเครมลินจัดได้ว่า เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง นับเป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระเจ้าแผ่นดินที่สมบูรณ์แบบ ทั้งรูปเคารพทางศาสนา และสมบัติของพระเจ้าซาร์ล้วนเก็บอยู่ในห้องต่างๆ ใน พระราชวังเครมลิน มากมายจนประเมินค่าไม่ได้ สถาปัตยกรรมของกรุงมอสโกนั้น พระราชวังเครมลินถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศที่สุดในยุโรปยุคกลาง

 

 

คำว่า "เครมลิน" มีความหมายว่า ป้อมปราการ มีความยาวล้อมรอบ 2,235 เมตร มีหอคอย 18 แห่ง (เพื่อป้องกันการรุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน) โดยมีการปรับปรุงต่อเติมมาเรื่อยๆ เริ่มจากใช้อิฐสีขาวเป็นรอบรั้วกั้นกำแพงแต่ในปัจจุบัน ได้เปลี่ยนมาเป็นอิฐสีแดง ซึ่งความสูงของหอคอยแตกต่างกันระหว่าง 28-71 เมตร เช่น ภายในพระราชวัง แห่งนี้ประกอบด้วยปราสาท โบสถ์ วิหาร พิพิธภัณฑ์ คลังแสง อาวุธยุทธภัณฑ์ หอคอย ป้อมปราการ หอสูง ยอดแหลม และโดมมากมาย มีกำแพงสูง 65 ฟุตรอบพระราชวัง มีความยาวเกือบ 3 กิโลเมตร พระราชวังจักรพรรดิอยู่ตรงกลาง หอคอยอิวานเวลิกี้สูง 270 ฟุต เป็นที่แขวนระฆัง ของพระเจ้าโบริสดูนอฟ ผู้อยู่บนหอคอย จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพ กรุงมอสโก ที่สวยงาม ได้อย่างชัดเจน บรรดาหอคอย หอสูง โดม ป้อมปราการเหล่านี้ เมื่อแสงพระอาทิตย์สาดมาต้อง จะเห็นเป็นสีทอง เปล่งปลั่ง สุกอร่าม งามตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก ประตูสำคัญ คือประตูโปรดชำระบาป ซึ่งพระเจ้าซาร์อะเล็กซิส โปรดให้สร้างเมื่อปีค.ศ. 1491 โปรดให้ติดโคมใหญ่ไว้บนยอดดวงหนึ่งประตูนี้เคยมีพระบรมราชโองการรับสั่งให้ผู้ผ่านเข้าออกต้องถอดหมวก แสดงความเคารพ ผู้ฝ่าฝืนจะต้องถูกจับประหารชีวิต ถัดไปไม่ไกลมีมหาวิหารอัครเทวทูตซึ่งมีที่ตกแต่งไว้อย่างงดงาม เพื่อใช้เป็นสุสานฝังพระศพของพระเจ้าซาร์ทุกพระองค์ นอกจากนี้ยังมีโบสถ์อัสสัมชัญซึ่งสร้างไว้อย่างประณีตบรรจงเป็นพิเศษ มีหนังสือประวัติ ของที่นี่แปลออกมา เกี่ยวกับเรื่องราวภายในกำแพงอิฐหนาสีแดงของเครมลิน ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นจุดศูนย์กลางของมอสโก รวมถึงเป็นศูนย์กลางของรัสเซียทั้งประเทศให้ทุกคนได้ฟังกัน พระราชวังเครมลิน มักเป็นคำที่คนชอบใช้เรียกสถานที่แห่งนี้ แต่แท้จริงแล้ว คำว่า "เครมลิน" ในภาษารัสเซียนั้น มีความหมายแปลว่าป้อมปราการ ซึ่งภายในป้อมปราการหรือเครมลินนั้นก็จะประกอบไปด้วยพระราชวัง วิหารสำคัญๆ และที่ทำการของรัฐบาลต่างๆ แต่เรามักเรียกกันแบบรวมๆ ไปว่าพระราชวังเครมลิน สำหรับเครมลินนี้ก็เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับการสร้างเมืองมอสโกในปี ค.ศ.1147 โดยผู้สร้างก็คือเจ้าชายยูริ ดอลโกรูกี้ พระราชโอรสของกษัตริย์วลาดิเมียร์ โมโนมาด แห่งเมืองเคียฟ เมืองเล็กๆ ที่มีป้อมปราการอยู่บนภูเขา เจ้าชายยูริได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ที่นี่และได้สร้างค่าย สร้างประตู สร้างกำแพงเมือง รวมไปถึงยังสร้างพระราชวังภายในเครมลินแห่งนี้ แต่ในสมัยนั้นยังก่อสร้างด้วยไม้และดิน ไม่ได้มีรูปร่างลักษณะเหมือนอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้ แต่ต่อมาในสมัยของพระเจ้าอิวานที่ 3 (อิวานมหาราช) พระองค์ได้ปลดปล่อยรัสเซียจากการปกครองของพวกตาตาร์ (มองโกล) และได้พัฒนาบ้านเมืองให้เจริญขึ้นในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงได้แต่งเติมเสริมสร้างเครมลินจนเป็นรูปร่างลักษณะอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ โดยได้เปลี่ยนจากกำแพงหินปูนสีขาวมาเป็นกำแพงอิฐสีแดง และได้มีการบูรณะพระราชวัง วางผังเมือง สร้างโบสถ์ โดยพระองค์ได้ทรงนำเอาช่างชาวอิตาลีมาออกแบบสิ่งก่อสร้างต่างๆ ให้งดงาม และอีก 860 ปีผ่านไปหลังจากที่เจ้าชายยูริสร้างเครมลินและเมืองมอสโก ก็เป็นเวลาที่เราได้มาเยือนเครมลินแห่งนี้ หลังจากซื้อบัตรและเดินผ่านเครื่องแสกนตรวจกระเป๋าแล้ว เราก็เดินผ่านป้อมประตูและกำแพงหนา 5 เมตรเข้าสู่ภายในกำแพงเครมลิน บรรยากาศภายในดูสงบเรียบร้อย มีนักท่องเที่ยวและนักเรียนที่มาทัศนศึกษาเดินชมสถานที่ต่างๆ กันอยู่เป็นกลุ่มๆ ความน่าสนใจของเครมลินเริ่มขึ้นตั้งแต่ป้อมประตูแล้ว โดยรอบเครมลินนี้มีป้อมหรือหอคอยอยู่ทั้งหมด 20 แห่ง ป้อมแต่ละป้อมก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ความสูงของป้อม การตกแต่ง เช่นบางป้อมมีดาวแดงประดับอยู่บนยอด บางป้อมทำเป็นหอนาฬิกา สำหรับป้อมที่เราเดินเข้ามานี้ก็เป็นอีกป้อมหนึ่งที่มีดวงดาวประดับอยู่ ห่างจากป้อมประตูมาไม่ไกลนัก มองทางซ้ายมือเห็นตึกสีเหลืองคืออาคารคลังแสงโบราณ สังเกตได้จากปืนหลายกระบอกที่ตั้งอยู่ด้านหน้า รวมทั้งใกล้ๆ กันนั้นก็ยังเป็นที่ทำการของประธานาธิบดีปัจจุบันอีกด้วย เมื่อหันมองทางขวามือก็จะมีปืนใหญ่กระบอกโตตั้งอยู่ มีนักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปกันเป็นกลุ่มๆ ปืนใหญ่ที่มาตั้งอยู่ที่นี่เรียกกันว่า ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1586 ว่ากันว่าเป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักถึง 40 ตันด้วยกัน แถมด้านหน้าปืนใหญ่ยังมีลูกกระสุนตั้งซ้อนกันอยู่ด้านหน้า 4 ลูก โดยแต่ละลูกก็หนักถึง 1 ตันทีเดียว แต่ปืนใหญ่กระบอกนี้ก็ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน และหากเดินไปอีกนิดก็จะเจอสิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกแล้ว นั่นก็คือ ระฆังของพระเจ้าซาร์ เป็นระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 200 ตัน และมีลวดลายสวยงามบนตัวระฆัง น้ำหนักมากขนาดนี้หากแกว่งทีหนึ่งก็คงจะเสียงดังกังวานไปไกล แต่น่าเสียดายที่ระฆังนี้ยังไม่เคยมีเสียงหรือไม่เคยถูกใช้สักครั้ง เพราะในขั้นตอนการหล่อยังไม่ทันเสร็จสมบูรณ์ ตัวระฆังยังอยู่ในเตาหล่อใต้ดิน ก็เกิดไฟไหม้ขึ้นภายในเครมลิน หลังจากเพลิงสงบน้ำที่ใช้ดับไฟได้ซึมลงไปในเตา อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ระฆังร้าวและแตกออกมาอย่างในภาพที่เห็น เป็นเหตุให้ระฆังใบนี้ต้องมาตั้งอยู่ที่พื้นพร้อมกับชิ้นส่วนที่แตกออก (เฉพาะส่วนที่แตกก็มีน้ำหนักถึง 11 ตันแล้ว) แทนที่จะได้แขวนอยู่บนหอระฆังอย่างสง่างาม แต่หากระฆังใบนี้หล่อเสร็จสมบูรณ์โดยไม่แตกร้าว ก็จะได้นำไปแขวนไว้ที่ "หอระฆังอีวาน" ซึ่งเป็นหอระฆังขนาดใหญ่และสูงที่สุดในเครมลิน มีความสูงถึง 81 เมตร สร้างโดยเจ้าฟ้าชายอิวาน ผู้ทรงมีสมญานามว่าอิวานถุงเงิน แต่เดิมนั้นหอระฆังนี้สูงเพียง 60 เมตรเท่านั้น แต่ภายหลังได้มีการต่อเติมให้สูงขึ้นไปอีกอย่างในปัจจุบัน และมีระฆังแขวนอยู่ถึง 21 ใบด้วยกัน เมื่อเดินผ่านหอระฆังอิวานเข้ามาแล้ว เราก็จะพบกับส่วนที่สวยงามแห่งหนึ่งของเครมลิน นั่นก็คือ "จัตุรัสวิหาร" ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหาร 3 หลังที่สำคัญ นั่นก็คือวิหารอัสสัมชัญ วิหารอันนันซิเอชั่น และวิหารอาร์คาเกล สำหรับวิหารที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในเครมลินก็คือวิหารอัสสัมชัญ ซึ่งเป็นวิหารที่ระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของแม่พระมารีย์ผู้กำเนิดพระเยซู ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญๆ อย่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าซาร์ เมื่อมองจากด้านนอกจะเห็นความงดงามโดดเด่นจากยอดโดมสีทองสดใสมีไม้กางเขนประดับอยู่ด้านบนทั้ง 5 ยอด ตัดกับหินสีขาวที่ประกอบเป็นตัววิหาร ยิ่งเมื่อเข้าไปด้านในยิ่งเห็นถึงความงามอลังการ มีภาพเขียนแบบเฟรสโก้ (ปูนเปียก) วาดเป็นรูปนักบุญและพระสังฆราชต่างๆ รวมทั้งเป็นที่วางหีบพระศพของพระสังฆราชอีกด้วย ส่วนวิหารอีกสองหลังนั้นก็เป็นวิหารที่พระเจ้าซาร์และพระบรมวงศานุวงศ์ใช้ประกอบพิธีในศาสนาต่างๆ รวมถึงเป็นสุสานฝังศพพระเจ้าซาร์องค์แรกๆ อีกด้วย ออกจากจัตุรัสวิหารมาแล้ว เราก็กำลังจะเดินผ่านส่วนสำคัญที่สุดของเครมลิน นั่นก็คือ "พระบรมมหาราชวัง" ซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ต้องบอกว่าเดินผ่านก็เพราะ น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ คงไม่มีโอกาสเข้าไปชมอย่างใกล้ชิด ได้เพียงแค่ดูอาคารสถาปัตยกรรมด้านนอกเพียงอย่างเดียว เพราะปัจจุบันนี้ พระราชวังเครมลินได้ใช้เป็นที่จัดงานสำคัญๆ ของประเทศเท่านั้น พระราชวังเครมลินถือเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในเครมลิน โดยมีคอนสแตนติน ธอน ซึ่งเป็นช่างที่ได้ศึกษาศิลปกรรมของอิตาลีมาเป็นช่างผู้ออกแบบ พระราชวังซึ่งเป็นอาคารสีครีมมียอดโดมทรงกลมยอดแหลมอยู่ตรงกลางแห่งนี้จึงมีกลิ่นอายของศิลปะอิตาเลียนผสมอยู่ไม่น้อย ว่ากันว่า มีห้องหับต่างๆ ในพระราชวังนี้ถึง 700 ห้องเลยทีเดียว เรื่องความสวยงามนั้นก็มาเป็นที่หนึ่ง โดยมีทั้งเครื่องตกแต่ง ภาพประดับภาพฝาผนัง รวมไปถึงโคมไฟหรือแชนเดอร์เลียอลังการที่ประดับอยู่มากมาย เมื่อเดินผ่านส่วนของพระราชวังมาแล้ว คราวนี้เราก็จะไปชมบรรดาสิ่งสวยงามและมีคุณค่าทั้งทางด้านราคาและด้านประวัติศาสตร์ของชาวรัสเซียกันที่ "พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์" พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศรัสเซีย ที่พระเจ้าอล็กซานเดอร์ที่ 1 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ ซึ่งเมื่อฉันได้ไปเห็นแล้วก็ต้องบอกว่าสมบัติเหล่านี้ล้ำค่าจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นฉลองพระองค์ของเหล่ากษัตริย์และพระราชินี เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ในราชสำนักต่างๆ ก็ล้วนแต่สวยงามละลานตาไปหมด สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ มงกุฎโมนามาค ซึ่งซาร์ทุกพระองค์จะต้องสวมมงกุฎนี้ในพิธีบรมราชาภิเษก และจะต้องมีคทาและลูกโลกประกอบด้วย มงกุฎของพระนางแอนนาก็เป็นมงกุฎที่งดงาม ประดับด้วยเพชรแท้ 2,500 เม็ด มีอัญมณีสีแดงประดับอยู่ด้านบนมงกุฎด้วย ราชรถหรือรถม้าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การชม เช่นราชรถที่พระนางอลิซเบธเคยใช้ในการเดินทางจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมายังกรุงมอสโก เพื่อเข้าพิธีบรมราชาภิเษกในปีค.ศ.1742 โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 วัน ใช้ม้าทั้งหมด 100 ตัว ผลัดเปลี่ยนม้าทุกๆ 3 ชั่วโมง ราชรถแต่ละคันก็ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะแบบต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นราชรถที่มาจากยุโรปมีศิลปะสวยงามมาก และ มอสโก เป็นเมืองหลวงของประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ 17,075,200 ตารางกิโลเมตร พระราชวังเครมลิน ตั้งอยู่ที่กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย สร้างอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำมอสควา ภายในมีพระราชวัง หอคอย และป้อมปราการ ซึ่งในอดีต เป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์กษัตริย์แห่งราชวงศ์รัสเซีย แต่ได้ถูกปฏิวัต ิเป็นคอมมิวนิสต์ และได้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลเครมลิน เป็นชื่อ ของนักการเมือง พอระบบสังคมนิยม ล่มสลายเป็นประชาธิปไตย ก็ได้เปิดให้เป็น แหล่งท่องเที่ยว จนถึงปัจจุบัน

 

--------------------------------------------------------------
เช็คเรทเพิ่มเติมที่ http://www.pentorexchange.com/exchange.php
ราคาทองวันนี้ http://www.pentorexchange.com/gold_price.php
ราคาน้ำมันวันนี้ http://www.pentorexchange.com/oil_price.php
พยากรณ์อากาศวันนี้ http://www.pentorexchange.com/weather.php
IOS และ Android:pentorexchange
เปิดทำการทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.
- สาขา เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น 4 (หลังธนาคารกสิกร)
โทร : 091-0964444,091-0974444
- สาขา คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) ถนนเลียบทางด่วน 
เอกมัย – รามอินทรา (หน้าธนาคารกสิกร) โทร : 091-0917444
- สาขา เดอะมอลล์ บางกะปิ (หน้าธนาคาร กรุงเทพ
โทร : 091-0984444​

อัตราแลกเปลี่ยนเงิน

สกุลเงินซื้อขาย
USD
United States
34.43 34.60
GBP
United Kingdom
43.24 43.50
EUR
European Union
35.99 36.25
JPY
Japan
0.223 0.2245
MYR
Malaysia
7.70 7.75
SGD
Singapore
25.25 25.70
CNY
China
4.72 4.78

ราคาทองคำ

ราคาทองคำ

ทองคำแท่ง
รับซื้อ (บาท)
43,700.00
ขายออก (บาท)
43,800.00
ทองคำรูปพรรณ
รับซื้อ (บาท)
42,917.96
ขายออก (บาท)
44,300.00