ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งในกรอบ จับตาประชุมกนง.-FOMC เปิดเผยรายงานประชุมเดือนก.ค.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบ เนื่องจากสถานการณ์ในเกาหลีเหนือคงจะยังไม่จบเพียงแค่ไม่พูดถึงชั่วคราว พร้อมให้ติดตามวันนี้ FOMC จะเปิดเผยรายงานการประชุมงวดที่ผ่านมา โดยให้จับตาว่าจะมีการพูดถึงการปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่
นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเงินบาทแข็งค่าเกินไป ซึ่งถ้าจะให้อ่อนค่าลงก็คงจะต้องลดอัตราดอกเบี้ย แต่วันนี้เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย อีกทั้งวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งคงจะมีการเลือกเล่นหุ้นตามงบฯที่ออกมาดี อย่าง STAR, TTA เป็นต้น และวันนี้จะมีหุ้น INTUCH ขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายปันผล ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯราว 0.40 จุด
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,555-1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570-1,575 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,998.99 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด (+0.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,333.01 จุด ลดลง 7.22 จุด (-0.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,464.61 จุด ลดลง 1.23 จุด (-0.05%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 2.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 63.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 21.52 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ส.ค.60) 1,567.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.88 จุด (+0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,241.32 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ส.ค.60
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 ส.ค.60) ปิดที่ 47.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ส.ค.60) ที่ 8.43 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.29 มองกรอบวันนี้ 33.20-33.35 ตลาดรอติดตามผลประชุม กนง.บ่ายนี้
- ครม.ออกกฎหมายลูกปิโตรเลียม 4 ฉบับรองรับการเปิดประมูลสัมปทานรอบใหม่ ต.ค.นี้ พร้อมวางเงื่อนไขวิธีการเปิดประมูลตามศักยภาพโอกาสพบปิโตรเลียมเกิน 50% ให้รัฐ "จ้างผลิต" หากศักยภาพสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 39% ใช้วิธี "แบ่งปันผลผลิต" หากต่ำกว่า 39% ใช้ "ระบบสัมปทาน" กำหนดอายุสัญญาสูงสุด 39 ปี ค่าภาคหลวง 10% จากเดิมใช้เพียงระบบสัมปทาน
- ครม.ไฟเขียวขยายเวลาคงภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ต่ออีก 1 ปี "บิ๊กตู่" ยืนยันไม่คิดขึ้นแวตเพิ่มภาระให้ประชาชน เหตุรายได้คนไทยยังย่ำแย่ วอนหยุดโจมตีทำให้คนรังเกียจข้าราชการ ขุนคลังหวังสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลต้องสูญรายได้การจัดเก็บภาษีกว่า 2.3 แสนล้านบาท
- 'บิ๊กตู่' จี้จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 400 คันต้องได้ในปีนี้ ขสมก.ทดลองเดินรถ 8 เส้นทาง ยันใช้ภาษาอังกฤษเพื่อจำง่าย รฟท.ดีเดย์ 21 ส.ค.ขึ้นค่าตั๋ว 100-200 บาท รถปรับอากาศรุ่นใหม่
- ส.อ.ท.ส่งสัญญาณถึง ธปท.รับมือผลกระทบบาทแข็งไม่สอดคล้องภูมิภาค ทอนเป็นเงินบาทกระทบต่อรายได้ สูญเดือนละ 4-5 หมื่นล้าน แนะผู้ส่งออกเกาะติดสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ด้านเศรษฐกิจในประเทศรอมาตรการรัฐจุนเจือก่อนปลายปี
- คมนาคมจ่อชง ครม. 22 ส.ค. ไฟเขียวสัญญา 2.1 งานออกแบบโครงสร้าง งานโยธารถไฟไทย-จีน มั่นใจเดินหน้าตอกเสาเข็ม ต.ค.60 พร้อมเพิ่มค่าเวนคืนทางฉะเชิงเทราแก่งคอย เป็น 372 ล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSH (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 25.40 บาท ยังคงประมาณการรายได้รวมปี 2560 ที่ 4.87 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าโครงการที่จะเปิดตัวใน 2H60 จะสามารถช่วยสนับสนุนการโอนใน 2H60 เนื่องจากโครงการแนวราบของ PSH เป็นโครงการที่พร้อมโอน ประกอบกับการโอนโครงการใหม่ที่เป็นคอนโดอีก 4 โครงการในช่วง 4Q60 การที่ PSH ได้เริ่มเจาะกลุ่ม Premium มองว่าเป็นการลดความเสี่ยงด้าน Rejection rate จากธนาคารลงได้ ด้านยอด Backlog ของกลุ่ม Premium จะสามารถรองรับรายได้ของ PSH ไปถึงปี 2562 โดยที่ยอด Backlog และยอด Presales ยังคงแข็งแกร่ง และประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.52 บาท/หุ้น
- KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 126 บาท ประชุม Opp day วานนี้ ช่วยลดความกังวลต่อการปรับลดดอกเบี้ยตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. จากการปรับลดสำรองลงตามคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น และลดค่าใช้จ่ายทางการตลาดในการเปิดบัตรใหม่ลง ส่วนแนวโน้ม 2H60 น่าจะชะลอตามฤดูกาลและการปรับลดดอกเบี้ย แต่ภาพรวมยังรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องจากข้อได้เปรียบด้านคุณภาพหนี้ โดยปรับกำไรปี 2560-2561 ขึ้น 6% และ 8% เป็น 2.7 พันล้านบาท (+9% Y-Y) และ 2.8 พันล่านบาท (+4% Y-Y)
- ETE (โกลเบล็ก) "ซื้อสะสม"เป้า 5.06 บาท รายงานกำไร 1H60 26 ล้านบาท คิดเป็น 43% ของประมาณการซึ่งยังคงมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการใน 2H60 เนื่องจากมี backlog ในมืออีกกว่า 1.1 พันล้านบาท และยังคงรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า Solar 16.45 MW คอยหนุนกำไรปี 60 ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ราว 61 ล้านบาทเติบโต 97%YoY
- PSL (ไอร่า) เป้า 13.50 บาท คาดในระยะสั้นได้รับปัจจัยบวกจาก BDI (Badi Dry Index) ที่ปรับขึ้นต่อเนื่องจากกลาง ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งลงไประดับต่ำสุดที่ 811 จุด โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,169 จุด ขณะที่คาดภาพรวมอุตสาหกรรมเรือเทกอง ในระยะยาวมีแนวโน้มฟื้นตัว คาด BDI จะดีขึ้นได้ในช่วง 2H/60 ภายใต้การปลดระวางเรือมีแนวโน้มเร่งตัวในระยะกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานเข้าใกล้จุดคุ้มมากขึ้น 2Q60 ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด โดยขาดทุนลดลงราวครึ่งหนึ่ง QoQ เหลือ 33 ล้านบาท จากการควบคุมต้นทุนที่ยังทำได้ดี ขณะที่ Performance เรือ Supramax ของ PSL ทำได้ดีขึ้น พร้อมปรับประมาณการปี 60 คาดขาดทุน 183 ล้านบาท ดีขึ้นจากเดิมคาดขาดทุนเกือบ 600 ล้านบาท และคาดกลับมากำไรสุทธิในปี 61
อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
สกุลเงิน | ซื้อ | ขาย |
---|---|---|
USD
United States
|
34.28 | 34.44 |
GBP
United Kingdom
|
42.89 | 43.25 |
EUR
European Union
|
35.59 | 35.85 |
JPY
Japan
|
0.222 | 0.224 |
MYR
Malaysia
|
7.65 | 7.71 |
SGD
Singapore
|
25.15 | 25.60 |
CNY
China
|
4.70 | 4.77 |