ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.14 แนวโน้มกลับมาแข็งค่า ตลาดจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯสัปดาห์นี้
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.14 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น
วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.09/11 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทเด้งขึ้นมาพอสมควร หลังจากที่สัปดาห์ก่อนเงินบาททำท่าจะแข็งค่าเฉียดๆ 33 ถ้วน อาทิตย์ที่แล้วลงไป Low
33.05 บาท/ดอลลาร์ แล้วก็เด้งขึ้น ลักษณะอย่างนี้ต้องรอดูปัจจัยใหม่ ซึ่งสัปดาห์นี้มีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะเป็นความหวัง
บ้างว่าดอลลาร์จะฟื้นตัวได้หรือเปล่า แต่โดยรวมถ้าดูจากยูโรดอลลาร์ที่ทะลุแนวต้าน 1.20 ดอลลาร์/ยูโรขึ้นมา อาจจะมีการเทขาย
ทำกำไรสกุลอื่นๆแล้วซื้อคืนดอลลาร์บ้าง" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 33.10-33.20 บาท/ดอลลาร์ มองว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็ง
ค่าได้อีก เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.48 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 107.65 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2002 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกรั้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2065 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0680 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (11-15 ก.ย.) ที่ 33.00-33.20 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค รวมถึงสถานการณ์ใน
คาบสมุทรเกาหลี ในช่วงระหว่างวันชาติของเกาหลีเหนือ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้
บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. ดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. นอกจากนี้นักลงทุนอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน
- "ไอแบงก์" เตรียมรายงานแผนการฟื้นฟูกิจการให้ คนร.พิจารณา พร้อมเสนอคัดเลือกพันธมิตรจากผู้สนใจ 3 ราย
ด้านคลังเตรียมใส่เงินเพิ่มทุน 1.8 หมื่นล้านบาท
- ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ชี้เศรษฐกิจดีขึ้น หนุนผู้ประกอบการเชื่อมั่นเปิดโครงการใหม่คาดทำเลกรุงเทพฯปริมณฑลทั้ง
ปีทะลุ 108,709 ยูนิต โต 2.9%
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์
รมว.คลัง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการเร่งจัดทำแผนเพิ่มรายได้ในระยะยาว เพื่อให้นำเงินไปใช้เพิ่มในส่วนงบลงทุน
ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะหลังจากนี้ภาครัฐยังมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่อีกหลายโครงการในอนาคต นอก
จากนี้ ทางรมว.คลังยังได้สั่งการให้หาแนวทางว่าในการดึงภาคเอกชนให้เข้ามาร่วมลงทุนกับภาครัฐให้เพิ่มขึ้น
- รัฐบาลตั้งเป้าส่งเสริมการท่องเที่ยวปี 2561 สร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2560 หรือมูลค่า 3.03 ล้านล้าน
บาท เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่มุ่งให้ นักท่องเที่ยวใช้เวลาพำนักอยู่ในไทยนานขึ้นผ่านมาตรการต่างๆพร้อมทั้งอาศัยแรงเสริมจาก
ผลสำรวจของต่างประเทศที่จัดอันดับให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวระยะยาวแต่คุ้มค่ามากที่สุด
- ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน เขาคาดว่า
อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ และคาดว่างบดุลของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 2.4-3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นทศวรรษ
หน้า จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
- ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรยึดมั่นตามแผนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อ
ให้ระบบการเงินมีความสมดุล และเศรษฐกิจไม่เผชิญภาวะร้อนแรงเกินไป
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (8 ก.
ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก
ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้
- รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) มาร่วม
พูดคุยกันในวันนี้ เพื่อผลักดันให้การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระดับภูมิภาคมีความคืบหน้ามากขึ้น
- เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประกาศว่าทั้ง
สองฝ่ายได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และข้อตกลงด้านการลงทุนที่เกี่ยวข้อง
- สื่อต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มบางส่วนในวันนี้ โดยมีเป้า
หมายเพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินหยวน หลังจากที่ภาคการส่งออกของจีนเริ่มได้รับผลกระทบจากการที่ค่าเงินหยวนพุ่งขึ้นเป็นอย่าง
มากในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
- สถาบันวิจัยเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NEIESR) คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า หลังการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ
อัตราแลกเปลี่ยนเงิน
สกุลเงิน | ซื้อ | ขาย |
---|---|---|
USD
United States
|
34.43 | 34.60 |
GBP
United Kingdom
|
43.24 | 43.50 |
EUR
European Union
|
35.99 | 36.25 |
JPY
Japan
|
0.223 | 0.2245 |
MYR
Malaysia
|
7.70 | 7.75 |
SGD
Singapore
|
25.25 | 25.70 |
CNY
China
|
4.72 | 4.78 |